วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Taro-Chiffon-Cake-Thai-Custard

ชิฟฟ่อนเค้กหม้อแกงเผือก


     สวัสดีทุกคนค่ะ วันนี้ติ๊กจะมาทำชิฟฟ่อนเค้กหม้อแกงเผือก สูตรของครัวการอาชีพวังไกลกังวลค่ะ แต่ติ๊กมีดัดแปลงสูตรเล็กน้อยนะคะ สูตรเดิมก็อร่อยอยู่มากแล้วค่ะ แต่ที่ติ๊กดัดแปลงเพื่อทำให้ถูกปากตัวเองมากขึ้นค่ะ


     สำหรับเค้กหม้อแกงเผือก จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนค่ะ 1. คาราเมล 2. หม้อแกงเผือก และ 3. เค้กชิฟฟ่อนค่ะ โดยติ๊กได้ลดทอนสูตรจากเดิม เพื่อใช้ในพิมพ์สี่เหลี่ยม 8x8 นิ้ว 1 พิมพ์

     เรามาเริ่มทำคาราเมลกันก่อนเลยค่ะ คาราเมลทำเพื่อนำไปเคลือบก้นพิมพ์นะคะ

สูตรคาราเมล
  1. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  2. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา 
  3. น้ำเปล่า 40 มิลลิลิตร
     เดิมทีถ้าลดทอนสูตรลงแล้ว ยังคงต้องใช้น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำตาล 50 กรัมค่ะ แต่ส่วนตัวติ๊กรู้สึกว่ารสชาติคาราเมลจะติดเปรี้ยวมากไป จนคนทานสัมผัสได้ ติ๊กเลยลดสูตรลงมา ปรากฎว่าดีขึ้น คนชิมไม่มีใครติเรื่องความเปรี้ยวแล้วค่ะ เพราะได้เพิ่มสัดส่วนน้ำตาลและน้ำลงไปด้วย

วิธีทำ
  1. นำน้ำตาลและมะนาวใส่ลงไปในกระทะ นำไปเคี่ยวด้วยไฟปานกลาง โดยที่ไม่ต้องคนน้ำตาลจนกว่าน้ำตาลจะเปลี่ยนสีเป็นคาราเมล แล้วจึงคนให้เข้ากัน 
  2. เมื่อน้ำตาลเปลี่ยนสี ให้ลดไฟลงใช้ไฟอ่อนเคี่ยวต่อ เติมน้ำเปล่าลงไปคนให้พอเข้ากัน แล้วปิดเตาเลยค่ะ
  3. คนต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าคาราเมลจะหายเดือด แล้วจึงยกลงจากเตา เราก็ได้คาราเมลพร้อมใช้งานแล้วค่ะ
  4. นำคาราเมลเทลงในพิมพ์เลยค่ะ พิมพ์ที่ใช้เป็นสี่เหลี่ยม 8x8 นิ้วนะคะ ไม่ต้องวางกระดาษรองอบ ไม่ต้องทาไขมันค่ะ
  5. ให้คาราเมลเคลือบก้นพิมพ์ให้ทั่ว และให้เน้นตรงกลางเป็นพิเศษนะคะ ไม่ควรเคลือบตรงกลางบางไป หม้อแกงอาจจะติดก้นพิมพ์ได้ เพราะตอนทำครั้งแรกติ๊กโดนไปเรียบร้อย คว่ำเค้กลงมาหม้อแกงตรงกลางติดก้นเลย เสร็จแล้วพักไว้ก่อนนะคะ

     จากนั้นมาทำหม้อแกงเผือกกันต่อค่ะ

สูตรหม้อแกงเผือก
  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง (เบอร์ 2)
  2. น้ำตาลโตนด 65 กรัม
  3. กะทิ 50 กรัม (ยี่ห้อพร้าวหอม)
  4. นมสด 100 กรัม
  5. เผือกนึ่ง 50 กรัม (ติ๊กใช้เผือกหอมค่ะ)
  6. เกลือ 1/4 ช้อนชา
     สำหรับสูตรหม้อแกงเผือก ติ๊กได้ปรับลดน้ำตาลลงมาค่ะ ลดทอนสูตรจากของเดิมซึ่งใช้ 100 กรัม ถ้าใครชอบหวานมากก็จัดตามสูตรเดิมไปเลยค่ะ นอกจากนี้ติ๊กได้เปลี่ยนกะทิ มาใส่นมเติมเข้าไปแทน เพราะน้ำตาลโตนดที่ติ๊กใช้ รสชาติ ความหอมมัน เป็นอะไรที่เข้มข้นมาก ถ้าใส่กะทิทั้งหมด หม้อแกงจะเลี่ยนไปค่ะ คุณแม่ไม่ชอบเท่าไรนัก เลยต้องผสมนมลงไป ใครชอบกะทิจัดจ้าน ก็เปลี่ยนจากนมสดเป็นกะทิเหมือนเดิมได้เลยค่ะ

วิธีทำหม้อแกงเผือก
  1. นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ในโถปั่น ปั่นให้ละเอียดจนเข้ากันดีค่ะ
  2. จากนั้นก็เทหม้อแกงลงในพิมพ์ ลองแตะดูคาราเมลเสียหน่อยว่าเหนียวหนึบติดพิมพ์ดีรึยังนะคะ ถ้ายังก็นำไปแช่ฟรีซแป๋บเดียวให้เซ็ตตัวหน่อย ก่อนที่จะเทหม้อแกงลงไป 
  3. เมื่อคาราเมลเซ็ตตัวดีแล้ว ก็เทหม้อแกงลงด้านข้างๆพิมพ์ค่ะ ติ๊กแอบกลัวค่ะ ถ้าเทตรงกลางเดี๋ยวจะทำให้คาราเมลที่เคลือบไว้ร่อนออก ก็ทำครั้งแรกมันติดก้นพิมพ์อ่ะเนาะ รอบนี้เลยหลอนค่ะ ก็ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะช่วยได้จริงรึป่าวนะคะ
     เทหม้อแกงเสร็จแล้ว เราก็พักทิ้งไว้ก่อน มาเตรียมชิฟฟ่อนเค้กเผือกกันค่ะ

สูตรชิฟฟ่อนเค้กเผือก

ส่วนผสมที่ 1
  1. ไข่แดง 3 ฟอง (เบอร์ 2)
  2. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  3. น้ำมันพืช 65 (ติ๊กใช้น้ำมันทานตะวัน)
  4. กะทิ 80 กรัม (ยี่ห้อพร้าวหอม)
  5. เผือกนึ่ง 65 กรัม (ติ๊กใช้เผือกหอมค่ะ)
  6. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  7. สีม่วง 1/4 ช้อนชา
ส่วนผสมที่ 2
  1. แป้งเค้ก 75 กรัม
  2. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมที่ 3
  1. ไข่ขาว 3 ฟอง
  2. น้ำตาลป่น 85 กรัม
  3. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา
     สำหรับชิฟฟ่อนเผือก ติ๊กได้ปรับลดแป้งลงมาจากเดิม (ตามสูตรเดิมถ้าคำนวณไม่ผิดใช้ 107 กรัม) ลดน้ำมันลงหน่อย เพิ่มกะทิเข้าไปแทน เพื่อให้เค้กหอมมันมากขึ้นค่ะ

วิธีทำชิฟฟ่อนเค้กเผือก
  1. ร่อนแป้งกับผงฟูลงในชามผสม และทำหลุมตรงกลางค่ะ จากนั้นพักไว้ก่อน
  2. นำส่วนผสมที่ 1 เทลงในโถปั่น แล้วปั่นให้ทุกอย่างเข้ากันดีค่ะ
  3. เทส่วนตามข้อ2. ลงในชามผสมแป้งที่ร่อนไว้แล้ว แล้วตะล่อมให้เข้ากันดี จนไม่เห็นเป็นเม็ดแป้ง
  4. แบทเทอร์ที่ได้อาจมีฟองอากาศเยอะ ติ๊กเลยกระแทกพิมพ์ไล่ฟองอากาศออกเสียหน่อยค่ะ แล้วพักไว้ก่อน มาทำเมอแรงค์ต่อค่ะ
  5. ตีไข่ขาวด้วยสปีด 2 ให้ขึ้นเป็นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่อให้เป็นฟองละเอียด แล้วทะยอยใส่น้ำตาลป่นลงไปจนหมด ตีไข่ขาวไปเรื่อยๆ จนตั้งยอดอ่อน แล้วให้ตีต่อเพื่อให้ไข่เนื้อเนียนยิ่งขึ้นและโครงสร้างแข็งแรง (Firm Peak)
  6. นำเมอแรงค์ที่ได้ แบ่ง 3 ส่วน ใส่ลงในชามผสมแป้ง แล้วตะล่อมให้เข้ากันดี เมื่อเข้ากันดีแล้ว ให้ตะล่อมต่ออีกสัก 10-15 ครั้ง ให้เนื้อเนียนขึ้นค่ะ
  7. เทแบทเทอร์ลงพิมพ์ที่ราดหม้อแกงเอาไว้ ให้เทลงอย่างช้าๆ จะช่วยตัดฟองอากาศใหญ่ๆได้อีก (ติ๊กใส่แบทเทอร์ลงไปไม่หมดนะคะ มีเหลืออยู่นิดหน่อย)
  8. กระแทกพิมพ์เบาๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ วันนี้ติ๊กมาในโหมดไม่รุนแรง กระแทกพิมพ์อย่างเบามือ และมีเคาะพิมพ์ด้านข้างด้วย (มีเพื่อนที่ดูคลิปทักมาว่าทำชิฟฟ่อนอย่ารุนแรงนะเธอ เดี๋ยวจะยุบหมด แหมที่ผ่านมาก็กระทำไปเยอะเลย )
  9. จากนั้นนำเข้าอบ โดยวิธีรองน้ำนะคะ ใส่น้ำร้อนจัดลงในถาดรองอบประมาณ 500 มิลลิลิตร
  10. นำเข้าอบด้วยไฟบนล่าง 170 องศา ติ๊กใช้เวลาอบ 25 นาทีเป๊ะค่ะ วันนี้ติ๊กเช็คสุก นอกจากจะใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงกลาง ติ๊กได้ใช้มือสัมผัสผิวเค้กด้านบนค่ะ โดยกดลงไป หากเนื้อเค้กเด้งกลับมาก็เอาออกจากเตาค่ะ แต่ถ้ายังบุ๋มลงไปก็ให้อบต่ออีกนิด เทคนิคนี้จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหน ลืมเซฟไว้ เขาบอกว่าเค้กไข่บางทีแม้จะอบสุกแล้วแต่โครงสร้างยังไม่แข็งแรงดี เค้กยังไม่เซ็ตตัวก็จะทำให้ยุบตรงกลางได้ จึงให้เช็คสุกด้วยวิธีนำนิ้วมือกดลงไปที่ผิวเค้กด้านบน ถ้าเค้กเด้งไม่เห็นเป็นรอยนิ้ว ก็ให้เอาออกจากเตาได้เลย
  11. อบสุกดีแล้ว ก็เอาออกจากเตา แล้วรีบนำออกจากพิมพ์ค่ะ ไม่ต้องพักทิ้งไว้นะคะ เพราะมีหม้อแกงอยู่ข้างล่าง เราต้องเอาออกเลยไม่งั้นหม้อแกงอาจจะติดพิมพ์ได้ ติ๊กขอไม่เสี่ยงที่จะพักเค้กจ้า
  12. แซะขอบทั้ง 4 ด้าน คว่ำเค้กลงบนตะแกรง และเคาะพิมพ์เสียหน่อย เพื่อจะช่วยให้หม้อแกงร่อนออกได้ง่ายบ้างเนาะ (มโนไปเองว่าจะช่วยได้...555)
  13. จากนั้นก็พักเค้กให้เย็นลง แล้วก็ตัดๆ ชิมกันเลยค่า


     รสชาติเค้กได้อารมณ์ทานหม้อแกงเผือกเลยนะเนี่ย ทีแรกก็คิดนะคะว่ามันจะไปกันได้หรือ หม้อแกงเผือกกับเค้ก แต่มันเป็นไปได้จริงๆค่ะ อร่อยมาก ยิ่งถ้าใครชอบขนมหม้อแกงนะคะ ควรจัดโลดเลยค่ะ
เป็นเค้กอีกสูตรนึงที่น่าสนใจ และเป็นที่โปรดมากสำหรับผู้หลักผู้ใหญ่เลยค่ะ คุณแม่ติ๊กเอาไปแจกเพื่อนๆ และได้เอาไปทำบุญ มีแต่คนชมว่าอร่อย ทำเอาคนทำยิ้มไม่หุบ เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของเรานะคะ
คำชมเปรียบเสมือนกำลังใจ ให้เราได้ฮึดสู้ทำขนมต่อไป วันนี้ติ๊กก็ขอลาไปก่อนน้า

     หวังว่าสูตรนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนที่แวะหลงทางเข้ามาบ้าง ไม่มากก็น้อยนะคะ



ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking




วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Caramel Popcorn

     สวัสดีทุกคนค่ะ วันนี้ติ๊กจะชวนทุกคนมาทำคาราเมลป๊อปคอร์นทานเล่นกันค่ะ เป็นเมนูที่ต้องทานอย่างระมัดระวังนะคะ ถ้าทานหมดสูตรนี้คนเดียว บอกเลยว่าได้อ้วนลงพุงแน่ๆ

     สำหรับป๊อปคอร์นในวันนี้ ติ๊กใช้ Mushroom Popcorn เป็นป๊อปคอร์นแบบหัวกลมค่ะ ส่วนตัวแล้วติ๊กชอบป๊อปคอร์นแบบกลมๆ รู้สึกว่าความกลมของมันจะทำให้ราดคาราเมลง่าย คลุกง่าย แซะง่าย แต่จะให้มันออกดอกให้กลมทุกเม็ดไม่ง่ายเลยค่ะ



มาเข้าเรื่องสูตรกันเลยดีกว่าค่ะ

คาราเมลป๊อปคอร์น Caramel Popcorn


ส่วนที่ 1 ข้าวโพดคั่ว
  1. เมล็ดข้าวโพด 100 กรัม
  2. น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
ส่วนที่ 2 คาราเมล
  1. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  2. น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำเชื่อมข้าวโพด 30 มิลลิตร
  4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  5. วิปปิ้งครีม 2 ช้อนโต๊ะ
  6. เนยจืด 30 กรัม
  7. เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา

วิธีทำคาราเมลป๊อปคอร์น
  1. นำหม้อหรือกระทะที่จะใช้คั่วข้าวโพดตั้งเตา ใช้ไฟปานกลางค่อนไปทางแรงค่ะ ใส่น้ำมันลงไป รอน้ำมันจนกว่าจะร้อน
  2. เมื่อน้ำมันร้อน สังเกตุจากหม้อเริ่มมีควันขึ้น ก็คนๆ น้ำมันเล็กน้อย ให้ความร้อนกระจายตัว แล้วก็ใส่เมล็ดข้าวโพดลงไป
  3. ผัดให้น้ำมันเคลือบข้าวโพดเท่าๆกัน แล้วปิดฝารอเมล็ดข้าวโพดแตก
  4. ระหว่างที่เมล็ดข้าวโพดเริ่มแตก ก็ให้ขยับหม้อบ้าง เพื่อให้ความร้อนกระจายตัวเท่าๆกัน และป้องกันไม่ให้ป๊อปคอร์นไหม้ค่ะ
  5. เมื่อเสียงป๊อปเริ่มเงียบ ก็ปิดเตาค่ะ แล้วก็เขย่าๆนิดนึง เผื่อจะมีบางเม็ดที่อาจจะป๊อปเพิ่ม ติ๊กเช็คดูป๊อปคอร์นว่าออกดอกดีหรือไม่ ก็ออกดอกมาสวยบ้าง เบี้้ยวบ้าง แตกเป็น Butterfly บ้าง ติ๊กไม่เคยทำแล้วให้ป๊อปคอร์นออกเป็นเห็ดกลมๆ ได้ทุกเม็ดเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความร้อนตอนคั่วไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะตอนเขย่าๆหม้อ คงทำไม่เป็น ไม่รู้ต้องคั่วอย่างไร เขย่าอย่างไร ให้ความร้อนมันเท่าๆกัน แต่โดยรวมก็โอเคค่ะ ออกดอกได้เยอะอยู่
  6. จากนั้นก็เทข้าวโพดลงในอีกชามผสม เพื่อจะเอาเมล็ดที่ไม่แตก ที่อยู่ด้านล่างคัดทิ้งไปค่ะ
  7. เตรียมทำคาราเมล นำน้ำตาลใส่กระทะ ขึ้นตั้งเตาใช้ไฟปานกลาง 
  8. เทน้ำเปล่าตามลงไป แล้วรอจนกว่าน้ำตาลจะเดือด เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองน้ำตาลอ่อนๆ แล้วค่อยคนให้เข้ากันดี
  9. ปรับไฟเป็นไฟอ่อน ใส่ไซรับลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยเกลือแล้วผสมให้เข้ากันดี
  10. จากนั้นก็ใส่วิปปิ้่งครีม ค่อยๆเทนะคะ เพราะมันจะกระเด็น และคนไปเรื่อยๆ จนเข้ากัน 
  11. ใส่เนยสดค่ะ คนให้เนยละลายเข้ากันดี
  12. ใส่เบกกิ้งโซดา แล้วปิดเตาเลยค่ะค่ะ คนให้เข้ากัน ซึ่งคาราเมลจะสมูทขึ้น เนื้อจะฟู ให้ราดลงบนข้าวโพดให้ทั่วค่ะ รีบราดแล้วก็คุลกให้เข้ากันดี
  13. จากนั้นนำป๊อปคอร์นใส่ลงในถาดอบ เพื่อนำไปอบให้แห้งและกรอบ ติ๊กใช้ตะแกรงวางบนถาดและมีกระดาษรองอบอยู่ด้านล่างค่ะ กันคาราเมลแห้งติดถาด ถ้ามีตะแกรงถี่กว่านี้อีกหน่อยก็จะดีมาก เพราะป๊อปคอร์นบางเม็ดมันตกร่อง ทำให้แซะยากนิดนึง
  14. ติ๊กจะอบป๊อปคอร์น 2 รอบนะคะ โดยรอบแรกนำเข้าอบ 160 องศา เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้สีคาราเมลเข้มขึ้น 
  15. เมื่อนำออกจากเตาอบ ให้ทำการเกลี่ยและแซะคาราเมลไม่ให้เกาะติดกัน แล้วนำไปอบต่อรอบ 2
  16. รอบที่ 2 ให้อบที่อุณหภูมิ 100 องศา เป็นเวลา 40 นาที ต้องให้แน่ใจว่าเตาอบอยู่ในอุณหภูมิที่ 100 องศาแล้วนะคะ ถ้าไฟแรงเกินแล้วอบนาน ข้าวโพดก็จะหดตัวค่ะ
  17. เมื่ออบเสร็จแล้ว ป๊อปคอร์นจะแห้งกรอบ เราก็แซะป๊อปคอร์นออกมา การวางป๊อปคอร์นบนตะแกรงสำหรับติ๊กแล้วจะทำให้แซะง่ายกว่าที่วางบนกระดาษค่ะ  เพราะที่ผ่านมาเคยอบนกระดาษรองอบแล้วคาราเมลมันไหลเยิ้มติดกระดาษ พอมันแห้งก็ติดกันเป็นแพเลย แซะป๊อปคอร์นออกยากด้วย หลังจากนั้นก็เลยวางบนตะแกรงดีกว่า
  18. แซะป๊อปคอร์นออกมาแล้ว เราก็เก็บลงใส่ภาชนะปิดไม่ให้อากาศเข้า จะทำให้ป๊อปคอร์นกรอบนาน แต่ทว่าติ๊กเก็บได้เต็มที่แค่คืนเดียว ก็หมดแล้วค่า



ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking

Preserved Pineapple

สับปะรดกวน          ด้วยที่ติ๊กอยากจะทำพายสับปะรด ก็เลยจะทำสับปะรดกวนเองเสียหน่อย เพราะไม่ได้ทำยาก แต่จะเสียเวลามากกว่า ติ๊กใช้เวลาพอคว...