ไดฟูกุถั่วแดงสอดไส้สตอเบอรี่
ช่วงวันหยุดสงกรานต์ ติ๊กไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ก็ตั้งใจไว้ว่าจะหัดทำขนมไดฟูกุ ปกติแล้วที่ผ่านมาติ๊กไม่ได้ชอบทานโมจิ และไดฟูกุเท่าไรนัก เพราะทานมากี่ที่ แป้งขนมนั้นไม่อร่อย บางทีแข็งไป จืดไป ไม่เหนียวหนึบก็มี ไม่ถูกปากติ๊กเลย จนกระทั่งติ๊กได้มาลองทานขนมไดฟูกุถั่วแดงสอดไส้สตรอเบอรี่ ของร้านมูเทกิ (Muteki) จริงๆ ติ๊กก็ไม่ได้คาดหวังกับเมนูนี้เท่าไรหรอกนะ แต่อยากลองให้รู้รสชาติ ว่าทำไมร้านนี้ถึงขึ้นชื่อนัก เมื่อได้ทานคำแรกไปแทบกรี๊ด...แบบว่าฟินมาก มันเป็นอะไรที่ใช่เลย แป้งโมจินั้นอร่อยมาก ไส้ถั่วแดงก็ทำจากถั่วแดงจริงๆ บอกเลยว่าติ๊กติดใจมาก และได้มีโอกาสไปทานร้านนี้ถึง 2 ครั้ง ไม่สามารถลืมรสชาติไดฟูกุร้านนี้ได้เลย ใจมันเรียกหาอยากจะทานอีกอยู่เรื่อยๆ แต่... ราคานั้นโหดร้ายมาก ถ้าไปทานบ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ ลูกละตั้ง 120 บาท ติ๊กทานไป 2 ลูก ก็ 240 บาท (ราคานี้ ติ๊กสามารถนำไปซื้อสตรอเบอรี่นอกมาทำขนมได้แล้ว) เลยเป็นเหตุให้ติ๊กหัดทำขนมไดฟูกุเองดีกว่า เอาล่ะ...เกริ่นมาสะเยอะ เรามาเริ่มที่สูตรกันก่อนเลยนะคะ
สูตรถั่วแดงกวน
- ถั่วแดง 300 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 8 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- น้ำต้มที่ได้จากถั่วแดง 100 กรัม
- แป้งกวนไส้ 10 กรัม
- ล้างถั่วแดงให้สะอาด นำถั่วไปแช่น้ำข้ามคืน แช่จนมันอืดเลยค่ะ
- จากนั้นกรองน้ำออกให้หมด นำถั่วแดงใส่หม้อ เติมน้ำสะอาดให้ท่วมถั่วแดง เพื่อที่จะเอาไปต้ม
- ต้มถั่วแดงให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายแดง 8 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลจะซึมเข้าถั่วแดงทำให้หวานเล็กน้อย
- เมื่อถั่วแดงต้มเดือดแล้วให้เบาไฟลง เป็นไฟปานกลาง ต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าถั่วแดงจะสุกนิ่ม ค่อนไปทางเปื่อย เราใช้เวลาไปเกือบ 4 ชั่วโมงได้
- กรองน้ำออก เอาแต่ถั่วแดงใส่หม้อ
- นำแป้งกวนไส้ และ น้ำต้มที่ได้จากถั่วแดง นำมาผสมกัน คนให้ละลายเข้ากัน แล้วเทใส่ถั่วแดง
- เริ่มกวนถั่วแดง แรกๆ ใช้ไฟแรงก่อนได้ จนถั่วแดงเดือดร้อน ค่อยลดระดับไฟเป็นไฟอ่อนๆ กวนไปเรื่อยๆ
- ระหว่างกวนถั่วแดง ก็ทะยอยเติมน้ำตาลทรายไปด้วย
- กวนถั่วแดงไปเรื่อย จนถั่วแดงเริ่มจับตัวเป็นก้อนๆ จนสามารถปั้นได้ก็ใช้ได้แล้ว
- นำถั่วแดงมาพักทิ้งไว้ให้เย็น
- เก็บรักษาถั่วแดงกวน โดยการนำมาห่อแร๊พให้มิดชิด และเก็บใส่ตู้เย็น
**ถั่วแดงกวนที่ได้จากสูตรนี้ จะไม่เนียนละเอียด หากใครชอบเนียนให้เอาไปปั่นก่อนเอามากวน แล้วถ้าใครชอบแบบเหนียวหนึบ แฉะๆ ก็ให้ใส่แบะแซ หรือกลูโคสไซรัป หรือคอร์นไซรับ
สูตรแป้งโมจิ สำหรับทำไดฟูกุ
- แป้งข้าวเหนียว (Glutinous Rice Flour) 70 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Flour) 30 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Flour) ตามต้องการ มาโรยเป็นแป้งนวล
- น้ำตาลทราย (Sugar) 40 กรัม
- น้ำเปล่า (Water) 150 มิลลิลิตร
วิธีทำไดฟูกุ
- สูตรแป้งนี้จะทำได้ประมาณ 12 ชิ้น หากรีดแป้งให้บาง แต่ถ้าต้องการแป้งหนาขึ้นมาหน่อย ก็ตัดแบ่งแป้งสัก 8-9 ชิ้น
- เริ่มแรกจากการปั้นถั่วแดงก่อน นำถั่วแดงกวนออกมาปั้น ก้อนละสัก 30 กรัม
- เมื่อปั้นเสร็จ ก็นำถั่วแดงกวนมาสอดไส้สตรอเบอรี่ ด้วยการกดถั่วแดงให้แบนราบ และเอาหัวสตรอเบอรี่ปักลงบนถั่วแดง นวดคลึงถั่วแดงขึ้นมาด้านบนให้ปกคลุมสตรอเบอรี่ให้หมด แล้วกลับด้านถั่วแดง เอาหัวสตรอเบอรี่ขึ้นมา คลึงถั่วแดงให้กลมสวย ทำจนครบทุกลูก
- ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งมันสำปะหลัง คนให้เข้ากัน
- นำน้ำตาลทราย และน้ำเปล่า มาผสมกัน คนให้น้ำตาลละลาย แล้วค่อยๆ เทลงในชามแป้ง ผสมแป้งกับน้ำให้เข้ากันดี
- นำไปอบด้วยไมโครเวฟ ไฟปานกลาง รอบละ 1 นาที ทำ 4 รอบ รวมแล้วใช้เวลาอบไป 4 นาที
- เมื่อแป้งสุก เนื้อแป้งจะใส ให้นำแป้งมันที่เตรียมไว้สำหรับแป้งนวล โรยลงบนพื้นที่ที่เราจะปั้นแป้ง และบนแป้งโมจิ และไม้พาย แป้งมีความเหนียวมาก ต้องโรยแป้งนวลให้ทั่วเลยนะ
- จากนั้นก็แบ่งแป้งให้ได้ 12 ชิ้น แล้วเริ่มปั้นทีละชิ้น
- รีดแป้งให้บางตามที่ต้องการแล้วนำมาห่อถั่วแดง ในการห่อนี้ติ๊กเองไม่ถนัด ใครถนัดห่อแบบไหนก็ทำตามที่ต้องการเลย ทำยังไงก็ได้ให้แป้งเรียบตึงเป็นก้อนกลมๆ สวยๆ ติ๊กใช้วีธีค่อยๆดึงแป้ง มาที่ก้น แล้วก็นำกรรไกรมาตัดแป้งที่ก้นออก ที่ทำแบบนี้เพราะตอนขึ้นรูปแป้งติ๊กไม่ได้ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วคลึงเป็นกลมๆ ทำให้แป้งไม่สามารถประกบได้พอดี อีกทั้งรีดแป้งบางมาก แป้งเลยเหลือพื้นที่เยอะ เลยต้องตัดทิ้งออกไปพอควร เมื่อตัดเล็มแป้งออก ตัวก้นไดฟูกุก็ติดกันสนิทพอดีด้วย แล้วนำไปคลุกแป้ง วางลงบนกระดาษไข หรือ กระทงจีบ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ผลงานที่ได้ ตัวแป้งโมจิเมื่อทำเสร็จใหม่ๆ โดยยังไม่เก็บตู้เย็น แป้งนุ่มเหนียวยืด เมื่อใส่ตู้เย็นค้างคืนสักคืนยังคงนุ่มอยู่ แต่ไม่หนึบยืดเท่ากับตอนทำใหม่ๆ พอผ่านไปคืนที่ 2 แป้งจะกระด้างขึ้น แต่ไม่แข็งโป๊กนะ ติ๊กแช่ไปผ่านไป 3 คืน แป้งไม่ยืดแล้ว กระด้างและแห้งขึ้นอีก แต่ก็ยังทานได้
สรุปคือ สูตรนี้เราให้คะแนนตัวเอง 7/10 หักคะแนนที่แป้งโมจิ ยังต้องปรับสูตรให้แป้งชุ่มชื้น เรารู้สึกว่าแป้งไม่เก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ ยิ่งพักทิ้งไว้ โดยเฉพาะในตู้เย็นแป้งจะยิ่งแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหนียวเลย คาดกว่าครั้งหน้า เราจะลองเพิ่มน้ำตาล น้ำเปล่า และลองใส่นม กับ Corn Syrup เพิ่มดู ว่าจะทำให้แป้งชุ่มชื้นขึ้นมั้ย กับอีกทีก็คงต้องไปหาซื้อแป้งญี่ปุ่น Mochiko Sweet Rice Flour มาทำ เห็นเขาว่าเป็นสุดยอดแป้งในการทำโมจิญี่ปุ่น ทำออกมาได้อร่อยเลิศตามรสต้นตำรับ หาซื้อในไทยหายากมาก เท่าที่ดูต้องสั่งจาก Amazon นำเข้ามาเลยทีเดียว
ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking