วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ซาลาเปา (หมั่นโถว)

สวัสดีทุกคนค่ะ วันนี้ติ๊กจะชวนทุกคนมาทำซาลาเปาไร้ไส้ หรือที่เราเรียกกันว่า "หมั่นโถว" ค่ะ อันที่จริง ติ๊กตั้งใจว่าจะทำซาลาเปาไส้หมูสับนะคะ แต่ว่าไม่มีเวลาจัดเตรียมไส้เลย วันนี้ก็เลยทำแต่แป้งก่อนค่ะ


สูตรนี้เป็นสูตรที่อยู่บนฉลากถุงแป้งซาลาเปายี่ห้อมัมเมดค่ะ แต่ติ๊กมีดัดแปลงนิดนึง ซึ่งติ๊กจะบอกไว้ในสูตรให้นะคะ ว่าดัดแปลงอะไร ถึงแม้ว่าจะเป็นสูตรของแป้งมัมเมด แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้แป้งเขาก็ได้นะคะ จะใช้แป้งของยี่ห้ออะไรบ้าง ก็แล้วแต่ชอบเลยค่ะ

ถ้าให้ติ๊กแนะนำ ติ๊กบอกได้แค่ว่าเคยใช้แต่แป้งซาลาเปายี่ห้อมัมเมด และ กิเลนเหลือง ซึ่งก็ทำซาลาเปาออกมาได้ดี ผิวขาว เนื้อนุ่มเด้ง ไม่ติดฟันค่ะ

นอกจากแป้งแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้ซาลาเปาเหลือง และติดฟันนะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าใช้แป้งดี ราคาแพง แล้วซาลาเปาจะออกมาขาวสวยเนื้อนุ่มเด้งไม่ติดฟัน เพราะสำคัญที่ขั้นตอนการทำด้วยค่ะ

ซาลาเปาสูตรนี้จะเป็นการผสมแป้ง 2 ขั้นตอนนะคะ โดยเริ่มแรกเราจะทำแป้งสปองจ์กันก่อนค่ะ

ส่วนผสมแป้งสปองจ์
  1. แป้งซาลาเปา 250 กรัม (ในคลิปใช้ยี่ห้อมัมเมด แต่จะใช้กิเลนเหลืองก็ได้เหมือนกันค่ะ)
  2. ยีสต์ 5 กรัม (ติ๊กใช้ยีสต์หวาน)
  3. น้ำอุ่น 150 กรัม

วิธีทำแป้งสปองจ์
  1. ร่อนแป้งซาลาเปาลงในโถผสม แล้วใส่ยีสต์ลงไป ตามด้วยน้ำอุ่น
  2. นวดส่วนผสมให้เข้ากันเป็นก้อนเดียว ติ๊กใช้เครื่องในการช่วยนวด ขั้นตอนนี้ใชัเวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 2-3 นาที ทุกอย่างก็เข้ากันได้ดี แต่ยีสต์จะยังไม่ละลายค่ะ
  3. จากนั้นก็พักแป้งสปองจ์ 1-1.30 ชั่วโมง อย่างน้อยๆก็ต้องมี 1 ชั่วโมงนะคะ และต้องให้ขึ้นฟู 2-3 เท่า ถึงจะนำมาใช้นวดแป้งโดว์ค่ะ
  4. นำพลาสติกถนอมอาหาร มาปิดคลุมภาชนะที่ใส่แป้งสปองจ์ให้มิดชิด ไม่ให้อากาศเข้าค่ะ หรือจะเป็นผ้าชื้นๆก็ได้

ส่วนผสมแป้งโดว์
  1. แป้งซาลาเปา 150 กรัม
  2. น้ำตาลป่น 90 กรัม
  3. ผงฟู 2 กรัม (ใช้ยี่ห้ออิมพีเรียล) (สูตรเดิมใช้ 6 กรัม) *ที่ลดผงฟูเพราะรู้สึกว่าใส่เยอะๆ แล้วมันทำให้สีซาลาเปามันติดเหลือง ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าวนะค่ะ แต่ถึงอย่างไร แม้ติ๊กจะลดผงฟูลง ซาลาเปาที่นึ่งได้ก็ฟู นุ่มเด้ง ทานแล้วไม่ติดฟันค่ะ*
  4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  5. น้ำเปล่า 60 กรัม (สูตรเดิมน้ำเปล่า 50 กรัม และใช้ไข่ขาวอีก 10 กรัม) *ติ๊กเปลี่ยนไข่ขาวเป็นน้ำสะดวกกว่าค่ะ ขี้เกียจตอกไข่ค่า*
  6. เนยขาว 25 กรัม

วิธีทำแป้งโดว์
  1. นำแป้งสปองจ์ที่หมักได้ที่แล้ว มาชกไล่ฟองอากาศบางส่วนออก
  2. เตรียมแป้งซาลาเปา ผงฟู เกลือ น้ำตาลป่น นำมาคลุกให้เข้ากัน แล้วร่อนลงในโถผสม
  3. ใส่น้ำเปล่าลงไป แล้วนวดให้ทุกอย่างเข้ากันดี
  4. เมื่อนวดเข้ากันดีแล้ว ใส่เนยขาวลงไปนวดต่อ นวดจนแป้งโดว์เนียน 
  5. ติ๊กใช้เครื่องนวด เลยสังเกตุจากตัวแป้งโดว์ ถ้าแป้งไม่แฉะติดก้นโถ หรือแป้งหลุดร่อนจากก้นโถผสม ถือว่าใช้ได้แล้วค่ะ ติ๊กจะปิดเครื่องทันที
  6. เช็คแป้งโดว์ว่านวดได้ที่หรือยัง โดยทำการดึงแป้งออกมาส่วนนึง มาลองขึงเป็นฟิล์ม ถ้าขึงได้ถือว่าใช้ได้ค่ะ *แป้งโดว์ที่ได้ จะมีความชุ่มชื้น แป้งจะนุ่มมาก และยืดหยุ่น คล้ายหมากฝรั่งค่ะ ดูได้จากในคลิปนะคะ*
  7. นวดเสร็จแล้ว นำแป้งโดว์มาพักไว้ประมาณ 10 นาที หาอะไรมาคลุมปิดแป้งด้วยค่ะ เดี๋ยวแป้งจะแห้ง
  8. เมื่อพักแป้งเสร็จแล้ว ให้ตัดแบ่งแป้งก้อนละ 40 กรัม จะได้ทั้งหมด 18 ชิ้นค่ะ (น้ำหนักแป้งโดว์โดยรวม 720 กรัมค่ะ) *ถ้าแป้งโดว์หนึบติดโต๊ะมากเกินไป ใช้แป้งซาลาเปาโรยบริเวณพื้นที่ที่จะปั้นโดว์บางๆ หรือ น้ำมันทาบางๆที่โต๊ะก็ได้ค่ะ*
  9. ตัดแบ่งเสร็จแล้ว ก็ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมๆ และอย่าลืมนำผ้า หรือ พลาสติกคลุมแป้งด้วยค่ะ
  10. เมื่อปั้นเสร็จ ก็นำมาขึ้นรูปเลยค่ะ โดยให้หยิบแป้งชิ้นแรกที่เราปั้นนำมาขึ้นรูปก่อนค่ะ
  11. ติ๊กขึ้นรูปโดยการรีดแป้งออกเป็นวงกลม และพับแป้งด้านซ้าย และด้านขวา เข้ามาตรงกลาง และรีดแป้งอีกครั้ง จากนั้นก็ม้วนแป้งจากมุมล่างขึ้นมาด้านบน (นึกภาพไม่ออกก็ดูจากในคลิปเอาเนาะ ^^")
  12. นำแป้งที่ขึ้นรูปเสร็จแล้ว วางบนกระดาษรองซาลาเปา แต่ติ๊กไม่ได้ทำบ่อยๆ หรือทำขาย ก็เลยไม่ได้ไปหาซื้อค่ะ ใช้กระทงจีบมาใส่แทน
  13. ขึ้นรูปเสร็จแล้ว ก็พักแป้งต่ออีกค่ะ ให้แป้งขึ้นฟูเกือบ 2 เท่า ประมาณ 80% ของเท่านึงก็ได้ค่ะ เพราะตอนนึ่ง ซาลาเปาจะขยายตัวอีก ติ๊กพักแป้งไปประมาณ 35 นาที ก็จับลงหม้อนึ่งแล้วค่ะ *ติ๊กเคยพักแป้งไว้นานถึง 1 ชั่วโมง เพราะตอนนั้นทำเยอะ ทำไม่ทันเวลา ปรากฎว่าซาลาเปาที่ได้นิ่มฟูฟ่องมาก แบบพองตัวเว่อร์เลยค่ะ แป้งงี้เบามาก ทานแล้วไม่ได้อารมณ์ซาลาเปาเลย*
  14. จากนั้นนำซาลาเปามานึ่ง ติ๊กใช้ไฟแรงปานกลางนึ่งซาลาเปาค่ะ นึ่ง 12 นาที จริงๆแล้ว 10 นาทีก็สุกแล้วล่ะค่ะ แต่ที่นึ่งนานหน่อย เพื่อให้ซาลาเปามันคงรูปได้ดี *ติ๊กเคยนึ่ง 8 นาที ปรากฏว่าซาลาเปามันสุกก็จริงนะค่ะ แต่มันยังฟูไม่ดีพอ พอเปิดฝาก็ยวบค่ะ และซาลาเปาก็สีเข้มติดเหลืองเลย จากนั้นเลยเข็ด นึ่งซาลาเปานานหน่อย เพื่อความชัวร์ค่ะ*
  15. นึ่งเสร็จก็นำออกจากลังถึง เสิร์ฟทานเลยค่ะ นึ่งมาร้อนๆ ทานเลยอร่อยมาก หรือถ้าเราทำเยอะๆทานไม่หมด ก็นำมาพักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิทค่ะ แล้วค่อยเก็บใส่ถุงให้มิดชิด นำใส่ตู้เย็นอยู่ได้ 7 วัน หรือถ้าจะเก็บเป็นเดือน ก็นำไปแช่แข็งค่ะ



ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ขนมปังนวดมือ

ขนมปังนวดมือ


     สวัสดีทุกคนค่า วันนี้ติ๊กจะชวนทุกคนมาอบขนมปังทานกันดีกว่า โดยสูตรวันนี้จะเป็นการทำขนมปังด้วยการนวดมือ ไม่ง้อเครื่องนวดกันจ้า

     ติ๊กขอออกตัวก่อนเลยนะ ว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่ติ๊กนวดมือ โดยปกติติ๊กใช้เครื่องนวดขนมปังตลอด ดังนั้นติ๊กคงนวดไม่ได้เก่งได้ระดับโปรเฟสชั่นแนลนะจ๊ะ เพราะถ้าต้องมานวดด้วยมือบ่อยๆ คงแทบไม่อยากจะทำขนมปังกันเลย มันเหนื่อยแถมยังต้องมานั่งเก็บล้างอีก ติ๊กหมดแรงตั้งแต่นวดขนมปังเสร็จแล้ว แทบไม่อยากจะทำอะไรต่อเลยทีเดียว

     ก่อนจะเริ่มทำ มาว่ากันด้วยทักษะการนวดขนมปังด้วยมือของติ๊กก่อนนะคะ ซึ่งเทคนิคของติ๊กก็คือ เราอาศัยความอึดอย่างเดียวค่ะ วิธีการนวดก็ลักพักลักจำจากคลิปพวกเชฟต่างประเทศ แล้วก็เอามาทำดู ดังนั้นถ้าทำได้ตามขั้นตอน และนวดได้อย่างที่ติ๊กลงในคลิป รับรองว่าขนมปังที่เราอบเสร็จแล้ว ออกมานุ่มอร่อยแน่นอน ตอนออกจากเตาอบใหม่ๆ แล้วทานเลยเป็นอะไรที่นุ๊มนุ่ม ห๊อมหอม

     ส่วนการเก็บรักษาขนมปัง ต้องรอให้ขนมปังเย็นตัวก่อนนะคะ ถึงจะเก็บใส่ภาชนะให้มิดชิดได้ และสามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้แค่ 3 วัน ถ้าวันที่ 3 ยังทานไม่หมดให้ไปเก็บตู้เย็นเลยค่ะ ไม่งั้นขึ้นราแน่ๆ ถ้าเอาออกจากตู้เย็นขนมปังดูแข็ง ก็นำไปเวฟสัก 10 วินาที หรือนำไปกริล ขนมปังก็ซุปเปอร์นุ่ม หอมอร่อย เหมือนเพิ่งออกจากเตาเลยค่ะ

เอาละค่ะ เกริ่นมาเยอะแล้ว เรามาเริ่มลงมือทำกันเลยดีกว่านะคะ

สูตรขนมปัง (เป็นขนมปังหวานนะคะ)


ส่วนผสมแห้ง (ส่วนที่ 1)
  1. แป้งขนมปัง 350 กรัม (ติ๊กใช้ยี่ห้อมัมเมด)
  2. ยีสต์ชนิดหวาน 5 กรัม (ติ๊กใช้ Saf instant)
ส่วนผสมแห้ง (ส่วนที่ 2)
  1. นมผง 7 กรัม (ติ๊กใช้หัวนมผงจะเข้มข้นกว่า ถ้าไม่มีจะไม่ใส่ก็ได้ แต่ขนมปังจะไม่หอมมันเท่าที่ควร)
  2. น้ำตาลทราย 70 กรัม (สูตรนี้ขนมปังจะมีรสหวานเล็กน้อย)
  3. เกลือ 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสมของเหลว
  1. วิปปิ้งครีม 50 มิลลิลิตร
  2. น้ำเปล่า 150 มิลลิตร
***ของเหลวที่เป็นน้ำใช้รวมทั้งหมด 200 มิลลิลิตร***


วิธีทำขนมปัง

  1. เตรียมส่วนผสมแห้ง ส่วนที่ 1 ร่อนแป้งขนมปังใส่โถผสม และจากนั้นก็ใส่ยีสต์หวานลงไป แล้วให้ทำหลุมตรงกลางเตรียมไว้เพื่อเทของเหลว
  2. นำส่วนผสมของเหลว และส่วนผสมแห้ง ส่วนที่ 2 ผสมกัน ก็คือ วิปปิ้งครีม,น้ำเปล่า,นมผง,น้ำตาลทราย และเกลือ ผสมคนให้เข้ากันดี
  3. นำส่วนผสมข้อที่ 2 เทลงไปในส่วนผสมแห้งส่วนที่ 1 ที่เราเตรียมไว้ แล้วคลุกให้เข้ากัน จนแป้งเริ่มดูดน้ำจับตัวเป็นก้อนๆ
  4. ใช้มือนวดให้แป้งรวมตัวกันเป็นก้อนเดียว และนวดจนไม่เห็นเป็นเม็ดแป้ง ติ๊กใช้เวลาประมาณ 2 นาที หรือสังเกตุจากที่โดว์เริ่มจะแฉะติดมือ ก็หยุดนวดได้เลย
  5. จากนั้นพักแป้งเอาไว้ ให้เอาแร๊พมาปิดคลุมโดว์ให้มิดชิด พักให้โดว์ขึ้นเป็น 2 เท่า ติ๊กพักนานประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง พักครั้งแรกอาจนานกว่าพักรอบที่ 2 เพราะยีสต์ยังทำงานได้ไม่เต็มที่
  6. เมื่อโดว์ขึ้น 2 เท่าแล้ว ก็เอามือคลึงไล่ฟองอากาศออกให้หมด โดวจะแฉะติดมือ ให้โรยแป้งนวลเล็กน้อย (ติ๊กใช้แป้งนวลเป็นแป้งเค้กและใช้นิดเดียวไม่เยอะนะคะ) ติ๊กใช้วิธีการร่อนแป้ง เพราะแป้งจะละเอียด และกระจายตัวได้ดี ทำให้ไม่ต้องใช้แป้งนวลเยอะ
  7. ใส่เนยลงไปนวดให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ก็นวดๆ ขย้ำๆ จนกว่าเนยจะเข้ากันกับโดว์ โต๊ะจะลื่นหน่อยนะคะ ไม่ต้องเติมแป้งนวลแล้วนะคะ นวดๆไปยังงั้นเลยจนกว่าเนยจะซึมเข้าเนื้อจนหมด ขั้นตอนนี้น่าจะ 5 นาทีได้นะคะ (แต่ว่าเนยติ๊กเป็นเนยเย็น ก็เลยนวดยากหน่อย)
  8. พอนวดเข้ากันดีแล้ว สังเกตุว่าแป้งโดว์ยังไม่เนียนนะคะ เรายังคงนวดต่อค่ะ ขั้นตอนนี้ติ๊กเปลี่ยนวิธีการนวด เราจะใช้อุ้งมือซ้ายและขวา นวดสลับกันไปมา และรักษาจังหวะการนวดคลึงให้สม่ำเสมอ ดูในคลิปนะคะจะเห็นภาพมากขึ้น ใช้เวลานวดในขั้นตอนนี้น่าจะ 10-15 นาที ขึ้นอยู่กับแรงคนนวด แต่ติ๊กแรงน้อย และนวดช้า แต่ก็รักษาจังหวะนะคะ นวดไป 15 นาทีเลยค่ะ เหนื่อยจริงๆ กว่าแป้งจะเนียนนุ่ม ขึงเป็นฟิล์มได้ *ระหว่างการนวดโดว์จะแฉะติดมือติ๊กนิดหน่อย ติ๊กโรยแป้งนวลอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้แป้งนวลอีกเลย* *ถ้าคนชอบขนมปังนุ่มๆ จำเป็นอย่างมากนะคะที่ต้องนวดให้ขึงเป็นฟิล์ม ไม่เช่นนั้นขนมปังจะแห้งและแข็ง*
  9. เมื่อนวดได้ที่แล้ว ก็นำโดว์ขึ้นชั่งน้ำหนักเลยค่ะ น้ำหนักที่ได้ประมาณ 670 กรัม ตัดแบ่งออกให้ได้ 14 ชิ้น เท่าๆ กัน ตกเฉลี่ย 47-48 กรัม ต่อลูก *ในระหว่างตัดแบ่งโดว์ ให้จัดเรียงชิ้นตามลำดับการแบ่งก่อนหลังด้วยนะคะ ถ้าโดว์หนึบติดโต๊ะ ก็ให้ใช้แป้งนวลโรยที่โต๊ะและปาดแป้งออกนะคะ ก็จะช่วยให้โดว์ไม่ติดโต๊ะแล้ว และไม่ต้องเพิ่มปริมาณแป้งในโดว์ด้วย*
  10. เมื่อแบ่งโดว์เรียบร้อย ก็พักไว้ 10 นาที ให้หาอะไรคลุมไว้ด้วยนะคะ เดี๋ยวโดว์จะแห้งแข็ง
  11. ระหว่างรอพักแป้ง ก็เตรียมพิมพ์อบ ติ๊กใช้พิมพ์กลม 2 ปอนด์ มีแบบวงแหวน และแบบอบเค้กปกติ ใช้ 2 พิมพ์ค่ะ และก็ทาเนยขาวที่พิมพ์ให้เรียบร้อย
  12. เมื่อพักโดว์ครบเวลา ก็ขึ้นรูปกันเลย ให้หยิบชิ้นแรกที่เราตัดแบ่งชิ้นขึ้นมาขึ้นรูปก่อน ใช้นิ้วมือบีบๆคลึงๆ ไล่ลมออกจากโดว์ และพับโดว์ไขว้ไปมาจนโดว์มีความเด้ง เนื้อเรียบเนียน และเอาด้านที่เรียบที่สุดขึ้นมาไว้ด้านบน และคลึงกลม (ดูจากในคลิปนะคะ) จากนั้นก็วางลงบนพิมพ์
  13. เราจะขึ้นรูปเป็นดอกไม้ โดยวางโดว์ 6 ชิ้นเป็นวงกลมรอบนอก และใจกลางอีก 1 ชิ้น วางให้ห่างเท่าๆกันนะคะ รีบปั้น รีบวาง เพราะโดว์มันขึ้นเร็วมาก
  14. เมื่อขึ้นรูปเสร็จ ก็พักโดว์ให้ขึ้นฟูอีก 2 เท่า หรือเต็มพิมพ์วงแหวน ถ้าใช้พิมพ์วงแหวนเหมือนกันนะคะ ติ๊กใช้เวลา 30 นาที พักรอบ 2 โดว์จะขึ้นไวมาก และที่สำคัญอากาศวันนี้ร้อนมากค่ะ
  15. จากนั้นก็นำเข้าอบ ถ้าอยากให้ผิวขนมปังมีสีเข้มเงาสวย ก็ให้ทา Egg wash (ก็คือไข่แดงผสมกับน้ำหรือนม 1:1 หรือจะเจือน้ำ/นม มากกว่านั้นก็ได้แล้วแต่ชอบ)
  16. นำเข้าอบไฟล่าง 180 องศา เป็นเวลา 30 นาที ค่ะ
  17. อบเสร็จแล้ว ก็เอาออกจากพิมพ์เลยนะคะ ไม่งั้นขนมปังจะแฉะ เอาออกจากพิมพ์แล้วก็พักทิ้งให้เย็น แล้วเก็บใส่ภาชนะปิดให้มิดชิด

     วันนี้ขนมปังของติ๊กดูจะสีเข้มกว่าทุกที ปกติสีจะไม่เข้มขนาดนี้ หลังๆมาเตาติ๊กชักจะอารมณ์แปรปรวน ถึงแม้เปลือกขนมปังจะเข้ม แต่ไม่ขมนะคะ ไม่ได้ไหม้ แต่เวลาทานเปลือกจะเหนียวหน่อยนึง ก็อร่อยดี
ลองทำกันดูนะคะ ก็เป็นอีกสูตรที่อร่อย และก็ไม่เกินกำลังสำหรับการนวดด้วยมือด้วยค่ะ


ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking

วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

วุ้นมะพร้าว

วุ้นมะพร้าว


     สวัสดี...ทุกคนค่า ช่วงนี้อากาศร้อนๆ จนแทบไม่อยากจะเข้าครัวอบขนมกันเลยค่ะ ติ๊กก็เลยขอคั่นเบรกมาทำขนมแบบไม่อบกันมั่งดีกว่า

     นั่นก็คือ...วุ้นมะพร้าว...จ้า ทานวุ้นช่วงอากาศร้อนๆ ก็ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย อร่อยสดชื่นดีนะคะ
เมนูวุ้นมะพร้าวในวันนี้ ทำไม่ยากเลยค่ะ วัตถุดิบหลักๆ ก็มีแค่ น้ำมะพร้าว ผงวุ้น น้ำตาล ก็สามารถเนรมิตวุ้นมะพร้าวแสนอร่อยได้แล้วจ้า

     เคล็ดลับในการทำวุ้นมะพร้าวของติ๊กนะคะ จะทำให้วุ้นมะพร้าวห๊อมหอมหวานธรรมชาติ และเนื้อกรอบนุ่มอร่อย มีอยู่แค่ 2 อย่างค่ะ

1. เลือกมะพร้าวน้ำหอมจากบ้านแพ้วค่ะ ใช้มะพร้าวที่มีเนื้อนะคะ เพราะมะพร้าวมีเนื้อ น้ำมะพร้าวจะมีรสหวานหอม กว่ามะพร้าวอ่อน แต่อย่าให้แก่จัดนะคะ เพราะเนื้อมะพร้าวจะแข็งค่า ถ้าเราจะเอาเนื้อมะพร้าวใส่ในสูตรวุ้นด้วย ก็ต้องหาเนื้อที่นุ่มค่ะ ดูเหมือนการคัดมะพร้าวมาทำขนมของเราจะยุ่งยากเสียนิด แต่ถ้าเรามีแหล่งซื้อ และคุ้นเคยกับเจ้าไหนเป็นพิเศษ ก็สั่งคนขายได้เลยว่าเราต้องการมะพร้าวแบบไหนค่ะ

2. การใช้ปริมาณผงวุ้นให้พอเหมาะกับของเหลวที่เราจะผสมลงไป เพราะถ้าใส่มากไป เนื้อวุ้นจะกรอบแข็งและแน่น ถ้าใส่น้อยไปก็จะนิ่ม

     สำหรับสูตรนี้ วุ้นมะพร้าวที่ได้จะกรอบนุ่มกำลังดี วุ้นมีความหอมมะพร้าวมาก รสชาติหวานน้อย ตามสไตล์ติ๊ก เป็นวุ้นมะพร้าวที่ผ่านคนชิม คนทาน มานักต่อนักแล้วนะค่ะ บอกเลยว่าอร่อยจ้า เรามาเริ่มลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ

สูตรวุ้นมะพร้าว

  1. น้ำมะพร้าว 3 ถ้วย
  2. น้ำตาลทราย 70 กรัม (สูตรหวานน้อย และกรณีใช้น้ำมะพร้าวมีเนื้อแบบในคลิปนะค่ะ)
  3. ผงวุ้น 2 + 1/2 ช้อนชา
  4. เนื้อมะพร้าว 2 ลูก (ตามชอบจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิธีทำวุ้นมะพร้าว

  1. นำน้ำมะพร้าวกับผงวุ้น นำมาผสมลงในหม้อ และคนให้ผงวุ้นกระจายตัวให้เข้ากันกับน้ำ 
  2. นำน้ำมะพร้าวไปต้มให้เดือด ระหว่างต้มให้หมั่นคนน้ำมะพร้าวอยู่เรื่อยๆ อย่าให้ผงวุ้นนอนจมก้นหม้อ จนกระทั่งน้ำเดือดให้ต้มต่อไปอีก จนกว่าผงวุ้นจะละลายหมด ให้สังเกตุจากช้อนที่เราคน เมื่อตักน้ำมะพร้าวขึ้นมามีผงวุ้นลอยอยู่หรือไม่ ติดช้อนคนหรือไม่
  3. ติ๊กใช้เวลาในการต้มหลังจากน้ำเดือดนานเหมือนกันนะคะ กว่าวุ้นจะละลายหมด แต่ติ๊กไม่ได้จับเวลา ถ้าให้ประมาณการณ์น่าจะไม่ต่ำกว่า 5 นาทีนะคะ
  4. เมื่อวุ้นละลายหมดแล้ว ให้ใส่น้ำตาลทราย และเร่งไฟให้แรงขึ้น เพื่อให้น้ำเดือด และใส่เนื้อมะพร้าวลงไป และให้น้ำเดือดจัดอีกครั้งแล้วคนๆสักพัก ก็ปิดไฟค่ะ
  5. จากนั้นก็เทใส่พิมพ์ ติ๊กใช้พิมพ์สี่เหลี่ยม 8x8 นิ้ว ค่ะ ติ๊กไม่มีพิมพ์สำหรับทำวุ้นหรอกนะคะ เวลาทำวุ้นติ๊กก็ใส่พิมพ์อบขนมนี่แหละ หรือไม่ก็พิมพ์ฟอย ใส่จาน ใส่ชาม นี่ถ้าไม่ได้ติดที่ติ๊กต้องอัดคลิปทำโชว์ ติ๊กคงใส่ชามก๋วยเตี๋ยว และคงตักทานในชามแทน...555
  6. เมื่อเทใส่พิมพ์เรียบร้อย ก็พักทิ้งไว้ให้วุ้นเซ็ตตัว และหายร้อน แล้วค่อยนำไปเก็บในตู้เย็นค่ะ

ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown


Preserved Pineapple

สับปะรดกวน          ด้วยที่ติ๊กอยากจะทำพายสับปะรด ก็เลยจะทำสับปะรดกวนเองเสียหน่อย เพราะไม่ได้ทำยาก แต่จะเสียเวลามากกว่า ติ๊กใช้เวลาพอคว...