วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ขนมไข่

ขนมไข่โบราณ


      สวัสดีทุกคนค่ะ เมนูวันหยุดวีคนี้ ติ๊กชวนมาทำขนมไข่โบราณค่ะ เป็นขนมที่ทำง่าย มีส่วนผสมที่ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เราตีไข่กับน้ำตาลให้ฟูเต็มที่ และใส่แป้งลงไปก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ แต่วันนี้ติ๊กขอประยุกต์การอบแบบสมัยใหม่ค่ะ โดยขอพึ่งสารเสริม SP เป็นตัวช่วยในการตีไข่ให้ขึ้นฟู และทำให้เนื้อขนมนุ่มขึ้นด้วยค่ะ ไม่ต้องเกริ่นกันเยอะเนาะ เรามาเริ่มทำกันเลยดีกว่า

สูตรขนมไข่
***อบได้ 10-12 ชิ้น ด้วยพิมพ์มัฟฟิน***
  1. แป้งอเนกประสงค์ 35 กรัม
  2. เบกกิ้งโซดา 1 หยิบมือ (หรือ 1/8 ช้อนชา)
  3. ไข่เป็ด 2 ฟอง
  4. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  5. น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
  6. วนิลลา 1 ช้อนชา
  7. สารเสริม SP 3 กรัม 
วิธีทำขนมไข่
  1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา ไฟบนล่างค่ะ
  2. ร่อนแป้ง และเบกกิ้งโซดา แล้วพักไว้ก่อน
  3. ตีไข่เป็ด โดยปาดสารเสริม SP ไว้ที่ปลายตะกร้อ ตีด้วยสปีดสูงสุดจนกระทั่งไข่เป็นฟอง และเริ่มเป็นครีม
  4. จากนั้นทะยอยใส่น้ำตาลลงไปจนหมด ตีจนไข่ขึ้นฟูเต็มที่ โดยไข่จะมีลักษณะเป็นเนื้อครีมข้น ติ๊กใช้เวลารวมข้อ 3 ด้วย ประมาณ 10 นาที ระหว่างตีให้ปาดด้านข้างโถด้วยค่ะ
  5. จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไป ตีด้วยสปีดสูงสุดให้เข้ากัน และเติมวนิลลา ตีต่อให้เพียงเข้ากันเท่านั้น แล้วหยุดตี แล้วปาดด้านข้างและก้นโถให้เข้ากัน
  6. ใส่แป้งและเบกกิ้งโซดาที่ร่อนไว้แล้ว ทะยอยใส่ลงไป โดยปรับสปีดตีความเร็วปานกลาง ตีเพียงให้แป้งเข้ากันก็พอค่ะ ระหว่างตีก็ปาดด้านข้างด้วยนะคะ
  7. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว หยอดใส่พิมพ์ที่ต้องการ (ทาเนยขาวที่พิมพ์ก่อนนะคะ)  ติ๊กใช้พิมพ์มัฟฟินในการอบ แบ่งใส่เท่าๆกัน 12 ชิ้นค่ะ (จริงๆ แบ่ง 10 ชิ้นน่าจะกำลังดีมากกว่าค่ะ)
  8. อบ 180 องศา ไฟบนล่าง 15-20 นาที 
      ติ๊กวางถาดที่ชั้น 3 ในการอบ (เตาติ๊กมี 5 ชั้น) และระหว่างการอบ เมื่อขนมไข่สุกผิวขนมเริ่มเหลือง ติ๊กกลับด้านถาดเพื่อที่ให้หน้าขนมมีสีน้ำตาลเท่าๆกัน ติ๊กใช้เวลาอบรวมทั้งหมด 17 นาที ก็จะได้ขนมไข่หน้ากรอบค่ะ แต่ทว่าขอบขนมออกจะคล้ำเกือบไหม้ค่ะ

      ถ้าใครชอบขนมไข่นิ่มๆนะคะ ติ๊กว่าอบไม่เกิน 12 นาที ก็น่าจะพอค่ะ แต่ผิวหน้าไม่แห้งกรอบ เป็นหน้านุ่มๆเหมือนสปันจ์เค้กเลยค่ะ เก็บข้ามวันก็ยังนุ่มค่ะ

      แต่ถ้าอยากให้หน้ากรอบ อบให้นานขึ้นจนหน้าขนมไข่จะเป็นรอยย่นๆ ยับๆ ผิวขรุขระ และหดตัวลง ตามรูปด้านล่างเลยค่ะ ให้อบจนผิวขนมเป็นสีน้ำตาลค่ะ ผิวขนมจะกรอบ แต่เนื้อจะแห้งขึ้นหน่อยนะคะ แต่ก็ยังมีความนุ่ม เหมาะสำหรับอบแล้วทานเลยภายในวัน








ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ชีสทาร์ตญี่ปุ่น


BAKE CHEESE TART


      สวัสดีค่ะ วันนี้ติ๊กจะมาทำชีสทาร์ตญี่ปุ่นกันอีกครั้งค่ะ เนื่องจากคราวก่อนชีสทาร์ต สูตร Ciao Kitchen เป็นอะไรที่เข้มข้นชีสมาก ทานแล้วรู้สึกเลี่ยนจุกกันไปตามๆกัน อีกทั้งใส่มะนาวไปเยอะ รสชาติเลยออกเปรี้ยวนำด้วยค่ะ แถมยังอบด้วยพิมพ์ครึ่งปอนด์ ปริมาณชีสงี้เอาไปเต็มๆ กว่าจะทานหมดชิ้นทำเอาคนชิมและคนทำเหนื่อยเลยค่ะ

      เมื่อสูตรยังไม่โดนใจเต็มร้อย ติ๊กก็ไม่ละความพยายาม ที่จะไปทำการบ้าน เสาะหาสูตรต่อ รอบนี้ติ๊กแวะเข้าไปดู Pinterest แล้วก็พบเจอสูตรที่น่าสนใจค่ะ เป็นสูตร Bake cheese tart หรือ Hokkaido cheese tart ของ Dreamerloft

      สูตรนี้ ติ๊กสนใจในตัววัตถุดิบของคัสตาร์ดชีสค่ะ  แต่สัดส่วนนั้นมองปราดเดียว รู้เลยว่าเลี่ยนแท้แน่นอน เพราะสัดส่วนสารพัดชีสเยอะกว่าสูตรคุณ Ciao อีก เลยทำให้ติ๊กต้องทดลองสูตรถึง 3 รอบ กว่าจะเป็นที่มาของสูตรคัสตาร์ดตัวใหม่ ที่ได้รสชาติอย่างลงตัว ให้รสสัมผัสครีมชีสแบบเบาๆ เนื้อคัสตาร์ดนุ่มละมุนลิ้น

      สูตรชีสทาร์ตนี้ ได้มีการปรับปรุงแป้งทาร์ตใหม่ด้วยนะคะ โดยอ้างอิงจากสูตรคุณ Ciao ที่เธอได้ผสมผงอัลมอนด์ลงไปด้วย แต่ติ๊กได้ปรับขั้นตอนการผสมใหม่ โดยนำเนยกับไข่แดงผสมกันไปก่อนเลย เหตุผลเพราะมีคนคอมเม้นท์รสชาติแป้งทาร์ตว่ามีกลิ่นไข่ค่ะ ติ๊กก็เลยเปลี่ยนวิธีการใหม่ ผสมไข่กับเนยให้เข้ากันก่อน แล้วค่อยผสมแป้งทีหลังค่ะ บอกเลยว่าสูตรนี้โดนใจติ๊กมากค่ะ มันอร่อยมากเลย ทาร์ตมีความหอมกรอบมัน ทานคู่กับคัสตาร์ดชีสลงตัวสุดๆ

      เอาเป็นว่าแป้งทาร์ตสูตรนี้ จะเป็นสูตรในดวงใจ ที่ติ๊กจะไว้ใช้ทำเมนูทาร์ตทุกเมนู (เว้นแต่จะเจอสูตรที่ดีไปกว่านี้ได้อีก ถึงจะเปลี่ยนใจค้า) เอาล่ะคะ...เกริ่นมาเยอะแล้ว เรามาดูสูตรกัน ว่าต้องเตรียมอะไรกันบ้างนะคะ

สูตรชีสทาร์ต (ทำได้ประมาณ 9-10 ชิ้นค่ะ)

ติ๊กใช้พิมพ์ทาร์ตขนาดเล็ก ตามคลิปวีดีโอเลยค่ะ

วัตถุดิบแป้งทาร์ต
***ในคลิป ติ๊กทำเบิ้ล 2 สูตร นะคะ***
  1. แป้งอเนกประสงค์ 70 กรัม
  2. อัลมอนด์ป่นละเอียด 30 กรัม (ติ๊กใช้อัลมอนด์สไลด์นำไปอบให้กรอบ แล้วนำไปปั่นละเอียด)
  3. น้ำตาลป่น 35 กรัม
  4. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  5. เนยจืด 45 กรัม
  6. เนยขาว 10 กรัม
  7. ไข่แดง 1 ฟอง (ไข่เบอร์ 0)
  8. วนิลลาสกัด 1/4 ช้อนชา
วิธีการทำทาร์ต
  1. วอร์มเตาอบ 180 องศา ไฟบนล่าง 
  2. ผสมเนยจืด เนยขาว วนิลลา และไข่แดง คลุกพอเข้ากัน 
  3. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ และน้ำตาลป่น ลงในชามผสม แล้วใส่เกลือ และอัลมอนด์ป่น แล้วคลุกยีๆให้พอเข้ากัน ให้เนื้อเป็นลักษณะเม็ดทรายเปียก
  4. นำโดว์ไปแร๊พ และรีดให้ได้แผ่นบางๆ ตามที่เราต้องการ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้โดวแข็งตัว ใช้เวลาประมาณอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือจะแช่ห้องแข่งเพื่อจะลดระยะเวลาก็ได้
  5. เมื่อโดว์แข็งตัวดีแล้ว นำออกจากตู้เย็น ตัดแบ่งเป็นชิ้น นำมากรุลงพิมพ์
  6. หลังจากกรุแป้งทาร์ตเสร็จ หากโดว์อ่อนตัวลง ให้นำไปแช่ฟรีชสัก 10 นาที ให้แข็งอีกครั้ง แล้วค่อยนำส้อมมาเจาะรูตรงก้นทาร์ต เพื่อระบายอากาศ ช่วยลดการพองตัวของแป้งขณะตอนที่อบ
  7. นำเข้าอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศา ไฟบนล่าง เป็นเวลา 10 นาที
  8. เมื่ออบเสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ในพิมพ์ก่อน ให้ทาร์ตนั้นแข็งตัว แล้วค่อยคว่ำออกจากพิมพ์
เราได้ทาร์ตเรียบร้อยแล้ว ก็มาเตรียมคัสตาร์ดชีสกันต่อค่ะ

สูตรคัสตาร์ดชีส

  1. ครีมชีส 80 กรัม
  2. มาสคาโปเน่ชีส 40 กรัม
  3. พามานซานชีส 10 กรัม
  4. เนยสดเค็ม 20 กรัม
  5. นมสด 120 กรัม
  6. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย 20 กรัม (สูตรหวานน้อย ถ้าชอบหวานเติมไปอีกสัก 15 กรัมก็ได้ค่ะ)
  8. ไข่แดง 1 ฟอง เบอร์ 0 (ตักออกมา 1 ช้อนชา นำไปผสมกับนมสดประมาณ 1-2 ช้อนชา เพื่อนำไปทำ Egg Wash)
  9. น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา  (สูตรนี้ไม่เปรี้ยว ถ้าชอบเปรี้ยวเติมมะนาวตามใจชอบ)
  10. วนิลลาสกัด 1/2 ช้อนชา
  11. กลิ่นส้มสกัด 1/2 ช้อนชา
วิธีทำคัสตาร์ดชีส
  1. วอร์มเตาอบ อุณหภูมิ 230 องศา ไฟบนล่าง
  2. นำหม้อใส่น้ำต้มให้เดือด แล้ววางชามผสมบนหม้อ เพื่อที่เราจะทำการตุ๋นครีมชีสค่ะ
  3. นำครีมชีส มาสคาโปเน่ชีส พามาซานชีส และเนยเค็ม นำใส่ชามผสม คนให้ละลายเข้ากัน
  4. นำนมสด และ แป้งข้าวโพด ผสมกัน คนให้ละลาย แล้วเทลงไปในชามชีส แล้วใส่น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน
  5. ใส่ไข่แดงลงไป แล้วรีบคนให้เข้ากัน ให้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าส่วนผสมจะข้นหนืดเป็นรอยตะกร้อ
  6. ปิดเตา ยกชามผสมลงจากหม้อ ใส่มะนาว วนิลลา กลิ่นส้ม คนให้เข้ากัน
  7. นำทาร์ตที่อบไว้ มาวางเรียบบนถาดอบ หยอดคัสตาร์ดชีสลงไปในทาร์ตให้เกือบเต็ม และปาดหน้าให้เรียบ
  8. นำ Egg Wash มาทาผิวคัสตาร์ด แล้วนำเข้าอบอุณหภูมิ 230 องศา ไฟบนล่าง อบเพียง 6 นาที เท่านั้นค่ะ
      หลังจากอบเสร็จแล้ว หน้าตาขนมของเราเมื่อตัดออกมาได้หน้าตาตามรูปด้านล่างเลยค่ะ รสชาติของคัสตาร์ดจะมีความนุ่ม ได้รสชีสเบาๆ หวานน้อย และเค็มนิดๆ ส่วนตัวทาร์ตกรอบร่วนหอมอร่อย


      หลังจากติ๊กอบเสร็จ พักทิ้งขนมให้เย็นตัว ติ๊กนำใส่ภาชนะปิดให้มิดชิด นำเก็บเข้าตู้เย็น 1 คืน แล้วนำมาตัดชิม ปรากฏว่าคัสตาร์ดชีสเนื้อหนึบเลยค่ะ ไม่นุ่มแล้ว ส่วนทาร์ตนั้นก็กรอบแบบแน่นๆ และนุ่มลงนิดหน่อย โดยรวมรสชาติก็ยังโอเคนะคะ อร่อยไปอีกแบบ


      แต่ถ้าใครชอบคัสตาร์ดนุ่มๆ ติ๊กแนะนำให้อุ่นในไมโครเวฟค่ะ ติ๊กได้ลองอุ่นไป 10 วินาที ถึง 2 รอบค่ะ รอบแรกอุ่นไปแล้วคัสตาร์ดไม่นิ่ม เลยต้องอุ่นต่อ ผลปรากฏได้ตามภาพค่ะ เนื้อนุ่มขึ้นแต่ไม่เป็นครีมเหลวเท่ากับตอนอบมาใหม่ๆ ตัวทาร์ตก็นุ่มขึ้นตาม จะไม่ค่อยกรอบเท่าตอนที่นำออกจากตู้เย็น แต่ก็ไม่แฉะนะคะ ก็อร่อยดีค่ะ เหมือนว่าติ๊กจะอร่อยไปสะทุกแบบ...555


      ก็เหลือแต่ว่าใครแวะผ่านมาเจอสูตรนี้ ได้ลองทำจะอร่อยถูกใจกันมั้ย ทำแล้วก็แวะมาบอกกันด้วยนะคะ

ติดตามเรื่องราวในห้องครัว Ms.andMrs.Brown
https://www.facebook.com/msandmrsbrown
https://www.youtube.com/c/msandmrsbrowncooking


Preserved Pineapple

สับปะรดกวน          ด้วยที่ติ๊กอยากจะทำพายสับปะรด ก็เลยจะทำสับปะรดกวนเองเสียหน่อย เพราะไม่ได้ทำยาก แต่จะเสียเวลามากกว่า ติ๊กใช้เวลาพอคว...